ผู้เป็นเอตทัคคะด้านเป็นที่รักใคร่เจริญใจของเทวดา
พระปิลินทวัจฉเถระ นามเดิมชื่อ ปิลินทะ เกิดในตระกูลวัจฉโคตร ดังนั้นจึงเรียกชื่อรวมเข้ากับโคตรว่า ปิลินทวัจฉะ
ท่านได้ฟังธรรมเทศนาพระบรมศาสดา เกิดศรัทธาแก่กล้าจึงได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา มีความเพียร เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ไม่นานนัก ก็ได้บรรลุอรหันตผล สำเร็จเป็นพระอริยบุคคล
ท่านเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ เช่น วันหนึ่ง ท่านเข้าไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ พบชายผู้หนึ่งถือดีปลีเต็มถาด กำลังเดินเข้ามาในกรุง จึงถามว่า เจ้าถ่อยในภาชนะของท่านมีอะไร ชายผู้นั้นคิดว่าสมณะรูปนี้กล่าวคำหยาบกับเราแต่เช้าเทียว เราควรกล่าวคำที่เหมาะสมแก่สมณะรูปนี้เหมือนกัน จึงตอบว่า ในภาชนะของฉันมีขี้หนูซิท่าน พระเถระพูดว่า เจ้าถ่อย มันจักต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อพระเถระคล้อยหลังไป ดีปลีก็กลายเป็นขี้หนูไปหมด และก็เป็นทั้งเล่มเกวียนที่บันทุกดีปลีมา เขาจะต้องแก้วาจาสิทธิ์ของท่าน โดยการแนะนำของเพื่อน ด้วยการถือดีปลีเต็มภาชนะไปยืนข้างหน้าท่าน เมื่อพระเถระกล่าวว่า นั่นอะไรล่ะเจ้าถ่อย ชายผู้นั้นก็ตอบว่า ดีปลีขอรับท่าน พระเถระกล่าวว่า จักเป็นอย่างนั้น เจ้าถ่อย มันก็กลายเป็นดีปลีทั้งหมด
ท่านชอบสอนธรรมแก่พวกเทวดาเป็นประจำ จึงได้รับเอตทัคคะว่าเป็นเลิศกว่าพวกภิกษุสาวกผู้เป็นที่รักใคร่เจริญใจของเทวดา