ผู้เป็นเอตทัคคะด้านมีเสียงไพเราะ
พระลกุณฑกภัททิยเถระ เกิดในตระกูลที่มีโภคะสมบัติมาก กรุงสาวัตถี มีรูปร่างไม่น่าเลื่อมใส มีวรรณะไม่งาม ไม่น่าดู ค่อม
ท่านฟังพระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดาแล้วเกิดศรัทธาได้บวชในพระพุทธศาสนา เรียนพระกรรมฐานในสำนักของพระบรมศาสดา เจริญวิปัสสนาจนได้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพหูสูต เป็นพระธรรมกถึกแสดงธรรมแก่คนเหล่าอื่นด้วยเสียงอันไพเราะ
ในวันมหรสพวันหนึ่ง มีหญิงคณิกาคนหนึ่งเดินทางด้วยรถกับพราหมณ์คนหนึ่ง นางได้มองเห็นพระลกุณฑกภัททิยเถระ จึงหัวเราะจนเห็นฟัน พระเถระถือเอานิมิตในกระดูกฟันของหญิงนั้นแล้วกระทำฌานให้เป็นบาท เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ได้เป็นพระอนาคามี ท่านอยู่ด้วยสติเป็นไปในกายเนืองๆ ต่อมาได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล
ภิกษุทั้งหลายที่ไม่รู้จักท่านเวลามาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา คิดว่าเป็นสามเณร บ้างก้อล้อเล่น ลูบศีรษะ จับใบหู ถามว่า พ่อเณรยังไม่กระสันอยากสึกดอกหรือ ท่านก็ไม่ว่าอะไร พอเข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดา พระพุทธองค์จึงตรัสถามว่า ก่อนเข้ามาพบพระเถระไหม จึงพากันทูลว่าไม่พบ พบแต่สามเณรตัวน้อยๆ พระเจ้าข้า พระบรมศาสดาตรัสว่า นั่นเป็นพระเถระไม่ใช่สามาเณร จึงทูลว่า ท่านตัวเล็กเหลือเกินพระเจ้าข้า
“เราไม่เรียกภิกษุว่าเป็นเถระ เพราะเขาเป็นคนแก่ นั่งบนอาสนะของพระเถระ ส่วนผู้ใดบรรลุสัจจะทั้งหลายตั้อยู่ในความไม่เบียดเบียนคนทั้งหลาย เราจึงเรียกผู้นั้นว่าเป็นเถระ”