พระปิงคิยเถระ

พระปิงคิยเถระ (ท่านเป็นศิษย์ของพราหมณ์พาวรีที่ถูกส่งมาทูลถามปัญหาทั้ง 16 ต่อพระพุทธเจ้า ณ ปาสาณเจดีย์) เป็นบุตรของพราหมณ์ในนครสาวัตถี เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์เล่าเรียนศิลปวิทยาในสำนักของพราหมณ์พาวรี ผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล
   ปิงคิยมาณพทูลถามปัญหาคนสุดท้ายว่า ข้าพระพุทธเจ้าเป็นคนแก่แล้ว ไม่มีกำลังวังชา มีผิวพรรณเหี่ยวย่นแล้ว ดวงตาของพระพุทธเจ้าก็เห็นไม่ชัดนัก หูก็ฟังไม่ชัด ขอพระองค์จงตรัสบอกธรรมเป็นเครื่องละชาติชรา ในอัตภาพนี้ด้วยเถิด
   พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่า “ท่านเห็นว่าชนทั้งหลายประมาทแล้ว ย่อมเดือดร้อน เพราะรูเป็นเหตุ เพราะฉะนั้น ท่านจงเป็นคนไม่ประมาท ละความพอใจในรูปเสีย จะได้ไม่เกิดอีก”
   ปิงคิยมาณพทูลถามว่า ทิศใหญ่สี่ ทิศน้อยสี่ เป็นสิบทิศ ทั้งทิศเบื้องบนและทิศเบื้องต่ำ ที่พระองค์ไม่เคยเห็น ไม่เคยฟัง ไม่เคยทราบ ไมได้รู้แล้วแม้แต่น้อยหนึ่ง มิได้มีในโลก ขอพระองค์ ขอพระองค์ตรัสบอกธรรมเป็นเครื่องละชาติชรา ในชาตินี้เสีย
   พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่า “เมื่อท่านเห็นหมู่มนุษย์อันตัณหาครอบงำ มีความเดือดร้อนเกิดขึ้น อันชราถึงรอบด้านแล้ว เหตุนั้น ท่านจงอย่าประมาท ละตัณหาเสีย จะได้ไม่เกิดอีก”
   ในที่สุดแห่งการพยากรณ์ปัญหา ปิงคิยมาณพได้เพียงดวงตาเห็นธรรม คือได้บรรลุเพียงโสดาปัตติผล เพราะเวลาฟังคำตอบปัญหา มีจิตฟุ้งซ่าน คิดถึงพราหมณ์พาวรีผู้เป็นอาจารย์ว่า ลุงของเราหาได้ฟังธรรมอันเทศนาที่ไพเราะอย่างนี้ไม่ อาศัยโทษที่จิตฟุ้งซ่าน เพราะความรักใคร่ในอาจารย์ จึงไม่อาจทำจิตให้สิ้นจากอาสวะได้