ลักษณะพุทธรูป พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิราบพระหัตถ์ซ้ายหงายลงบนพระเพลา พระหัตถ์ขวายกขึ้นแนบชิดพระเศียร แสดงถึงกิริยาเสยพระเกศา
ประวัติความเป็นมา เมื่อพระพุทธองค์เสร็จการเสวยภัตตกิจแล้ว ตปุสสะและภัลลิกะ สองพานิชจึงกราบทูลว่าข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองขอถึงพระองค์กับพระธรรมเป็นสรณะ ขอพระองค์จงทรงทราบว่า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองเป็นอุบาสก ในพระพุทธศาสนาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าอวสานแห่งชีวิต แล้วกราบทูลขอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งควรแก่การอภิวาทในยามอนุสรณ์ถึงพระมหากรุณาธิคุณจึงยกพระหัตถ์เบื้องขวาขึ้นลูบพระเศียรเกล้า ได้พระเกศา ๘ เส้นซึ่งนิยมเรียกว่า “พระเกศาธาตุ” แล้วทรงประทานพระเกศาธาตุทั้ง ๘ เส้นนั้นแก่สองพานิช ตปุสสะ ภัลลิกะ ได้น้อมรับพระเกศาธาตุทั้ง ๘ เส้นด้วยโสมนัสเป็นอันมากแล้วก็กราบบังคมลาไป พานิชทั้งสองนั้น ได้เป็นปฐมอุบาสกในพระพุทธศาสนาตั้งอยู่ในเทววาจิกสรณคมน์ คือถึงพระพุทธเจ้าและพระธรรมทั้งสองเป็นสรณะ ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีพระสงฆ์บังเกิดขึ้นในโลกเมื่อพานิชทั้งสองนั้นเดินทางกลับถึงเมืองของตนแล้ว และได้สร้างพระสถูปบรรจุพระเกศาธาตุนั้นไว้ทั้ง ๘ เส้น เพื่อเป็นที่สักการบูชาแก่มหาชนทั่วไป พระพุทธจริยาที่ทรงยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเสวยพระเกศาเป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรปขึ้นซึ่งเรียกว่า “พระปางเกศธาตุ”
|