ปางโปรดพุทธมารดา |
ลักษณะพุทธรูป พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระชานุ พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ จีบพระองคุลี เป็นกิริยาแสดงธรรมโปรด บางทีทำเป็นรูปพระหัตถ์กวัก คืองอพระองคุลีเล็กน้อยเป็นกิริยากวักให้เข้ากับเรื่องว่า ทรงกวักพระหัตถ์ตรัสเรียกพระมารดาให้เข้ามานั่งใกล้ เพื่อรับพระธรรมเทศนาที่ตั้งพระทัยเสด็จมาโปรด ประวัติความเป็นมา ขณะที่พระผู้มีพระภาคเจ้า กำลังแสดงยมกปาฏิหาริย์อยู่นั้น ได้ทรงรำพึงขึ้นว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต หลังทรงทำยมกปาฏิหาริย์แล้ว ได้เสด็จไปประจำพรรษาที่ไหนหนอ แล้วก็ทรงทราบด้วยพระญาณว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เมื่อทรงทำปาฏิหาริย์แล้ว ย่อมเสด็จขึ้นไปจำพรรษาในดาวดึงส์พิภพแสดงธรรมโปรดพระพุทธมารดา แล้วทรงดำริว่า แม้พระองค์ก็ควรจะเสด็จไปโปรดพระพุทธมารดาในดาวดึงส์สวรรค์เช่นกัน ดังนั้น เมื่อทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์เสร็จแล้ว จึงเสด็จจากพระแท่นจงกลมแก้ว บนยอดไม้คัณฑามพพฤกษ์ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์นั้น เสด็จขึ้นไปเทวพิภพชั้นดาวดึงส์ทันทีโดยทรงยกพระบาทขวาขึ้นจากจงกลมแก้ว ก้าวขึ้นเหยียบยอดภูเขายุคันธร แล้วยกพระบาทซ้ายก้าวขึ้นเหยียบยอดภูเขาสิเนรุแล้วเสด็จขึ้นไปประทับบนแท่นบัณฑุกัมพลสิลาอาสน์ภายใต้ร่มไม้ปาริกชาติในสรวงสวรรค์ การเสด็จไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าในเวลาเสด็จการแสดงยมกปาฏิหาริย์โดยฉับพลัน ซึ่งมหาชนทั่วทุกทิศก็กำลังใส่ใจดูแลด้วยความเลื่อมใส จึงนับเป็นเหมือนเดือนตกหรือตะวันตกหายไปจากโลก เป็นสิ่งที่น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะฉะนั้น ชนทั้งหลายจึงพากันคร่ำครวญว่าพระศาสดาผู้เลิศในโลก เสด็จไปเขาคิชฌกูฏหรือเขาไกลาศหรือเขายุคันธรหนอ พวกเราจึงไม่เห็นพระองค์ ชนเหล่านั้นได้พากันเข้าไปถามพระมหาโมคคัลลานะเถระว่า พระศาสดาเสด็จไปที่ไหนเสียเล่าพระคุณเจ้า พระมหาโมคคัลลานเถระแม้จะรู้ดีอยู่ แต่เพื่อถวายความเคารพแก่พระอนุรุทธเถระ จึงได้บอกแก่หาชนเหล่านั้นว่า พวกท่านจงไปตามพระอนุรุทธเถระเถิด คนเหล่านั้นจึงพากันเข้าไปถามพระอนุรุทธเถระ และพระอนุรุทธเถระตอบว่า พระศาสดาขึ้นไปจำพรรษาในสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อแสดงอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา “เมื่อไรจักเสด็จลงมาเล่า พระคุณเจ้า” “สามเดือนอุบาสก” พระเถระบอก “และเสด็จมาในวันมหาปวารณาด้วย” คนเหล่านั้นปรึกษากันว่า พวกเราจักรอเฝ้าพระบรมศาสดาอยู่ ณ ที่นี้แหละ หากไม่ได้เห็นพระพุทธองค์แล้ว ก็จักไม่ไป แล้วจัดแจงทำที่พักอยู่ในที่นั้นเอง ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้มีกำลังมากได้กรุณาให้ความอนุเคราะห์แก่คนเหล่าพอสมควร แม้พระมหาโมคคัลลานะก็ได้กรุณาแสดงธรรมให้กำลังใจ เจริญความเลื่อมใส แก้ความข้องใจของมหาชนที่ติดตามมาเพื่อชมปาฏิหาริย์ในภายหลังอีก ครั้งนั้น ท้าวสักกเทวราช ได้ทอดพระเนตรเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จขึ้นมาประทับ ณ พระแท่นบัณฑุกัมพลสิลาอาสน์ ก็มีความยินดี ป่าวประกาศให้เทพยดาทั้งหลายให้ทราบทั่วกันแล้ว ต่างก็รีบมาเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าในทันใดนั้นมากมายเมื่อพระบรมศาสดามิได้ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธมารดา จึงตรัสถามท้าวโกลีย์สักกเทวราช ท้าวโกลีย์จึงทูลขอประทานโอกาสพระผู้มีพระภาคขึ้นไปเฝ้าเทพธิดาเจ้าสิริมหามายาพระพุทธมารดา ในสวรรค์ชั้นดุสิต ทูลเชิญให้ไปเฝ้าพระบรมศาสดาจารย์เจ้ายังที่ประทับ ณ บัณฑุกัมพลสิลาอาสน์ พระพุทธมารดาก็เสด็จลีลาศด้วยความโสมนัส ลงไปเฝ้าพระผู้ทรงสวัสดิ์สัพพัญญูปิโยรส ครั้นถึงก็ทรงประณตทศนขอัญชลี แล้วทรงประทับยังแท่นที่อันงามวิจิตร ท่ามกลางเทพดาทั่วทุกทิศที่เข้ามาสถิตเฝ้าพระศาสดาอยู่เป็นอันมาก ต่อจากนั้น พระผู้มีพระภาคจึงยกพระหัตถ์เบื้องขวาออกจากจีวรกวักเรียกพระพุทธมารดาว่า เอหิ อมฺม ขอพระแม่เจ้าได้กรุณาเสด็จมาใกล้ๆ พระตถาคตผู้เป็นปิโยรสซึ่งพระแม่เจ้าได้อุ้มท้องประคับประคองและเลี้ยงดูด้วยน้ำนมและข้าวป้อนแต่อเนกชาติ ตถาคตขอโอกาสโปรดสนองพระคุณซึ่งสูงด้วยค่าหาประมาณมิได้ ด้วยพระอภิธรรมเทศนา แล้วพระบรมศาสดาก็เริ่มแสดงธรรมโปรดพระพุทธมารดา ถ้วนไตรมาสทุกเวลา ให้พระพุทธมารดาได้บรรลุอริยมรรคอริยผล สมดังพระกมลที่ทรงพระอุตสาหะเสด็จมา พระพุทธจริยาตอนนี้ เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า “ปางโปรดพุทธมารดา” |