ปางห้ามแก่นจันทร์ |
ลักษณะพุทธรูป พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถยืน ห้อยพระหัตถ์ขวาลงแนบพระกาย ตั้งฝ่าพระหัตถ์ซ้ายยื่นออกไปข้างหน้า ยกขึ้นเสมอพระอุระ เป็นกิริยาทรงห้าม ประวัติความเป็นมา ตามตำนานพระห้ามแก่นจันทร์เป็นตำนานเก่าก่อนพระพุทธรูปทั้งหมด ซึ่งแสดงว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรก เพราะมีในสมัยเมื่อพระบรมศาสดายังทรงพระชนม์อยู่ แต่เป็นสิ่งประหลาดที่ฝ่ายบาลีก็ไม่ปฏิเสธหรือยอมรับเรื่องเข้าไว้ โดยไม่มีหลักฐานสำหรับศึกษา คงเป็นแต่ที่ยอมรับรู้เห็นจะไม่เป็นเรื่องเสียหาย ดังนั้น จึงสมควรนำเรื่องพระปางห้ามแก่นจันทร์มากล่าวไว้ในเรื่องพระพุทธรูปปางต่างๆ ด้วยสำหรับประดับความรู้ของผู้สนใจจะรู้ด้วย เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จขึ้นไปจำพรรษาแสดงธรรมโปรดพุทธมารดา ในเทวพิภพ ณ พระแท่นบัณฑุกัมพลสิลาอาสน์ เป็นเหตุให้พระเจ้าปัสเสนทิโกศลได้ห่างเหินจากพระบรมศาสดาเป็นเวลานาน มิได้พบเห็นพระบรมศาสดาจารย์เป็นเวลาแรมเดือน ความเคารพรักได้กระตุ้นเตือนพระทัยให้ทรงระลึกถึง มีพระกมลรำพึงรัญจวนอยู่มิได้ขาด ด้วยพระองค์มีพระชนม์เป็นสหชาติเสมอด้วยพระชนม์ของพระบรมศาสดาจึงได้รับสั่งให้เจ้าพนักงานหาท่อนไม้แก่นจันทร์หอมอย่างดีมาแล้วโปรดให้ช่างไม้ที่มีฝีมือแกะเป็นรูปพระพุทธเจ้าปางประทับนั่ง มีพระรูปโฉมโนมพรรณงามละม้ายคล้ายพระบรมศาสดาแล้วโปรดให้อัญเชิญพระไม้แก่นจันทร์นั้น มาประดิษฐานยังพระราชนิเวศน์ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเสด็จประทับมาแต่ก่อน พอบรรเทาความอาวรณ์ได้ สบายพระทัยยามเมื่อได้ทอดพระเนตร ครั้นภายหลังเมื่อพระบรมโลกเชฏฐเสด็จกลับจากสรวงสวรรค์แล้วเสด็จมาพระนครสาวัตถีอีก พระราชาธิบดีปัสเสนทิโกศลได้ทูลอาราธนาสมเด็จพระทศพลให้เสด็จไปยังพระราชนิเวสน์ เพื่อให้พระบรมโลกเชฏฐ์ได้ทอดพระเนตรพระไม้แก่นจันทร์อันงาม แม้นเหมือนพระรูปดั่งเนรมิต ซึ่งได้โปรดให้นายช่างประดิษฐ์จำลองขึ้นเป็นอนุสรณ์ ครั้นสมเด็จพระพุทธชินวรเสด็จถึงซึ่งพระราชสถานในพระราชนิเวสน์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระไม้แก่นจันทร์นั้น พระไม้แก่นจันทร์นั้นก็ทำเป็นเสมือนหนึ่งว่ามีจิตรู้จักปฏิสันถารกิจที่ควรต้องลุกขึ้นถวายความเคารพพระบรมศาสดา ได้ขยับพระองค์เขยื่อนเลื่อนลงจากพระแท่นที่ประทับ ครั้งนั้นพระมหามุนีจึงได้ยกพระหัตถ์ซ้ายขึ้นห้ามพร้อมด้วยตรัสว่า “เอวํ นิสีทถ ขอพระองค์จงประทับนั่งอยู่อย่างนั้นแล” ครั้นสิ้นกระแสพระพุทธานุญาต พระไม้แก่นจันทร์ก็ลีลาศขึ้นประทับนั่งยังพระแท่นเดิมนั้น พระเจ้าปัสเสนทิโกศลทรงประสบความอัศจรรย์ ก็ทรงโสมนัสเลื่อมใสอัศจรรย์ในพระบารมี ได้ทรงอาราธนาพระชินสีห์พุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์สาวก เสวยพระกระยาหารบิณฑบาตในพระราชนิเวศน์ท้าวเธอได้เสด็จอังคาสด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ด้วยความเคารพเป็นอันดี ครั้นเสร็จภัตตกิจแล้วพระพุทธองค์ก็ถวายพระพรลา พาพระภิกษุสงฆ์สาวกเสด็จกลับไปประทับยังพระเชตวนาราม พระพุทธจริยาตอนทรงยกพระหัตถ์ห้ามพระไม้แก่นจันทร์นั้นและเป็นนิมิต เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า “ปางห้ามแก่นจันทร์” |