ปางประทับยืน |
ลักษณะพุทธรูป พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถทรงประทับยืนตามปกติ ห้อยพระหัตถ์ทั้งสองข้างลงชิดพระกายอย่างสบาย ๆ แสดงว่า ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรอันจะทำให้ต้องไหวพระกายคือประทับยืนเฉยๆ น่าจะเรียกตามเหตุว่า “ปางเมตตาการุญ” ประวัติความเป็นมา เมื่อพระพุทธองค์จะเสด็จจากคันธกุฏี อันเป็นพุทธจริยาวัตรในเวลาเช้าทุกๆวัน ด้วยกิจนิมนต์เสวย หรือเสด็จออกไปโปรดสัตว์นั้น ก็เสด็จออกประทับยืน ณ หน้ามุขพระคันธกุฏี เพื่อทอดพระเนตรดูความพร้อมเพรียงของพุทธบริษัท หรือก่อนจะเสด็จเข้าไปในบ้านคนใจบุญทูลอาราธนาไว้พร้อมด้วยพระสงฆ์สาวก เมื่อเสด็จออกจากคันธกุฏีแล้วจะต้องประทับยืนในท่านี้ ณ หน้าคันธกุฏีเป็นปกติเมื่อทรงเห็นว่าพระสงฆ์สาวกพร้อมเพรียงดีแล้ว ก็ทรงเสด็จเป็นประธานนำพระสงฆ์สาวกไป ก่อนแต่จะเสด็จออกจากพระคันธกุฏี เมื่อเป็นประธานนำพระสงฆ์สาวกไปนั้น พระพุทธอุปัฏฐากซึ่งมีพระอานนท์เป็นต้น จะต้องเข้าไปกราบทูลให้ทรงทราบก่อนแล้วว่า พระสงฆ์สาวกพร้อมแล้ว เป็นเวลาสมควรที่พระองค์จะเสด็จไปแล้ว แม้อย่างนั้น เมื่อเสด็จออกมาแล้วก็ต้องเสด็จมาประทับยืนที่หน้าพระคันธกุฏีก่อน เพื่อทอดพระเนตรความพร้อมเพรียงความเป็นระเบียบอันดีของพระสงฆ์ ไม่ทรงด่วนนำพระสงฆ์ไปทันที โดยมิทันได้ชมความพร้อมพรั่งเป็นอันดีของพระสงฆ์ต่อเมื่อได้ทรงความยินดีต่อพระสงฆ์ให้ทราบว่า ทรงพอพระทัยในความพร้อมเพรียงเป็นอันดีของพระสงฆ์แล้ว จึงเสด็จนำพระสงฆ์ไป พระพุทธจริยาอันนี้ จึงเป็นพระพุทธจริยาวัตรที่แสดงซึ่งน้ำพระทัยให้ปรากฏว่า ทรงมากด้วยพระเมตตา พระกรุณาในพระสาวก ทั้งเป็นเนติแบบอย่างอันดีสำหรับพระสงฆ์สาวกผู้เป็นเจ้าหมู่ เจ้าคณะจะพึงอนุวัตรตาม นับเป็นความงามในพระธรรมวินัยนี้ จึงเป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า “ปางประทับยืน” |