ปางประทานอภัย |
ลักษณะพุทธรูป พระพุทธรูปปางนี้มี ๒ แบบคือ แบบหนึ่งอยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ ยกพระหัตถ์ทั้งสองป้องเสมอพระอุระตั้งฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองนั้นหันเข้าหากัน เบนออกไปข้างหน้าเล็กน้อย อีกแบบหนึ่งอยู่ในอิริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองเสมอพระอุระ ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นไปข้างหน้า (แบบพระปางห้ามญาติ) ประวัติความเป็นมา สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ ณ อัมพวันสวนมะม่วงของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ใกล้พระนครราชคฤห์แคว้นมคธ ขณะนั้นพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองแคว้นมคธ แต่ความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ไม่สู้จะเรียบร้อยนักด้วยเหตุ ๓ ประการคือ ๑. พระองค์ทรงมีพระชนมายุน้อย ๒. ทรงเป็นขบถชิงราชสมบัติจากพระราชบิดา ๓. ทรงคบหานับถือพระเทวทัตเป็นอาจารย์ ดังนั้นจึงไม่เป็นที่นิยมนับถือของประชาราษฎรโดยสมบูรณ์เนื่องจากพระเจ้าอชาตศัตรู เป็นพระโอรสพระเจ้าพิมพิสารประสูติแด่พระนางเจ้าเวเทหิ อัครมเหสีของพระเจ้าพิมพิสารแต่สมัยยังเยาว์พระชนมายุอยู่นั้น ดำรงศักดิ์เป็นรัชทายาทได้รับความเอาอกเอาใจจากพระบิดา พระมารดา ตลอดพระประยูรญาติผู้ใหญ่เสียจนเคยตัว และยังคบคิดกับพระเทวทัตซึ่งมีนิสัยเป็นพาล จึงทำให้พระองค์ต้องทำปิตุฆาต คือ ปลงพระชนม์พระราชบิดาตามคำยุยงของอาจารย์คือ พระเทวทัต ต่อมาภายหลังพระเจ้าอชาตศัตรูสำนึกได้ในความผิดที่ตนหลงคบคิดกับคนพาล ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง อยู่มาวันหนึ่งได้มีโอกาสเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ พร้อมกับหมอชีวกผู้เป็นสหายรัก และพระพุทธองค์ก็ได้ทรงแสดงธรรมเทศนาโปรดพระเจ้าอชาตศัตรู ครั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาจบลงแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูได้กราบบังคมทูลแสดงความพอพระทัยว่า พระเทศนาแจ่มแจ้งนัก พระเจ้าข้า พระธรรมเทศนาแจ่มแจ้งดีมาก พระเจ้าข้า เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือเหมือนส่องตะเกียงในที่มืดข้อนี้ฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงประกาศธรรม โดยอนเกปริยาย ฉันนั้นเหมือนกัน หม่อมฉันขอถึงพระพุทธองค์ พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่งขอพระผู้มีพระภาคจงทรงจำหม่อมฉันว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ต่อจากนั้นท้าวเธอได้ทูลขอประทานอภัยโทษกะพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญโทษได้ครอบงำหม่อมฉัน ซึ่งเป็นคนเขลา คนหลงไม่ฉลาดหม่อมฉันได้ปลงพระชนม์ชีพ พระราชบิดาผู้ดำรงอยู่ในธรรมเป็นพระราชาโดยธรรมเพราะเหตุแห่งความเป็นใหญ่ ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงรับทราบความผิด ของหม่อมฉันโดยเป็นความผิดจริง เพื่อสังวรต่อไปเถิด พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า เป็นความจริง มหาบพิตรอาตมภาพขอรับทราบความผิดของมหาบพิตร การที่บุคคลเห็นความผิดโดยเป็นความผิดจริง แล้วสารภาพตามความเป็นจริงรับสังวรต่อไปนี้ เป็นความชอบในพระธรรมวินัยของพระอริยเจ้าแล เมื่อพระผู้มีพระภาค ตรัสประทานอภัยตามเยี่ยงอย่างพระอริยเจ้าอย่างนี้แล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญหม่อมฉันขอทูลลากลับ หม่อมฉันมีกิจอันจะต้องปฏิบัติมากพระเจ้าข้า ตามสะดวกเถิดมหาบพิตร พระพุทธองค์ทรงรับสั่ง ครั้นแล้วพระเจ้าอชาตศัตรูได้เสด็จลุกจากอาสนะ ถวายบังคมลาพระผู้มีพระภาค ทรงทำประทักษิณแล้วเสด็จกลับยังพระราชนิเวศน์พร้อมกับหมอชีวก ผู้เป็นสหายรัก เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จกลับไปแล้ว พระพุทธองค์จึงตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย พระราชาองค์นี้ ได้ถูกกรรมของพระองค์ราญรอนเสียแล้ว หากท้าวเธอจะไม่พึงปลงพระชนม์ชีพพระบิดาผู้ดำรงอยู่ในธรรม เป็นพระราชาโดยธรรมแล้ว ธรรมจักษุอันปราศจากธุลีมลทิน คือ พระโสดาปัตติผลจะเกิดแก่ท้าวเธอ ณ ที่ประทับนี้ทีเดียวภิกษุเหล่านั้นต่างชื่นชมยินดีในคาถาสุภาษิตของพระพุทธองค์โดยทั่วกันแล พระพุทธจริยาตอนประทานอภัยโทษแก่พระเจ้าอชาตศัตรูนั่นเอง เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า “ปางประทานอภัย” ขึ้นเป็นแบบอย่างสืบต่อมา |